การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นหนึ่งในวิธีช่วยลดความลึกของร่องแก้ม ให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสมากขึ้น แต่ในบางกรณีหลังฉีดอาจเกิดปัญหา “เป็นก้อน” ใต้ผิว ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกกังวลว่าเกิดจากอะไร และจะเป็นอันตรายหรือไม่ โดยเฉพาะถ้าก้อนนั้นมองเห็นได้ชัดหรือรู้สึกเจ็บเมื่อลูบสัมผัส บทความนี้จะพาไปไขข้อสงสัยว่าทำไมฟิลเลอร์ถึงกลายเป็นก้อน พร้อมวิธีแก้ไขอย่างปลอดภัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในปี 2025 ครับ
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน มีลักษณะอย่างไร?
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเกิดเป็นก้อน ลักษณะที่พบบ่อยคือจะสามารถ คลำเจอก้อนแข็งๆ หรือนูนเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง บริเวณที่ฉีด ซึ่งก้อนนั้นอาจมีขนาดเล็กหรือใหญ่ ขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด และตำแหน่งที่ฟิลเลอร์ไปจับตัวอยู่ โดยบางคนจะรู้สึกได้ชัดเวลาลูบหรือกดเบาๆ ที่บริเวณร่องแก้ม
นอกจากนี้ ก้อนฟิลเลอร์อาจทำให้ ใบหน้าดูไม่เรียบ ไม่สมูท โดยเฉพาะเวลายิ้ม พูด หรือแสดงสีหน้า อาจมีอาการร่วมอย่างตึง เจ็บ หรือระคายเคือง ถ้ามีการอักเสบร่วมด้วยก็อาจบวม แดง หรือรู้สึกร้อนที่ผิวหนัง หากก้อนเคลื่อนไหวได้ อาจเกิดจากฟิลเลอร์ที่ไม่เกาะตัวดีหรือฉีดผิดชั้น
หากคุณสังเกตว่าร่องแก้มมีความผิดปกติ ไม่เรียบ หรือคลำเจอก้อนแม้เวลาผ่านไปหลายวัน ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าเป็นเพียงอาการบวมชั่วคราว หรือเป็นก้อนฟิลเลอร์จริง และจะได้รักษาอย่างถูกต้องตั้งแต่เนิ่นๆ ครับ
ทำไมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน? เกิดจากสาเหตุใด?
การเกิดก้อนหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยครับ ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยมีทั้งจากเทคนิคการฉีด ประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมถึงสภาพผิวของคนไข้เอง โดยส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการที่ฟิลเลอร์ไม่ได้กระจายตัวดี หรือฉีดผิดชั้นผิว ส่งผลให้ฟิลเลอร์จับตัวกันเป็นก้อนในชั้นใต้ผิวหนัง
หนึ่งในสาเหตุหลักคือ การฉีดลึกเกินไปหรือตื้นเกินไป ทำให้ฟิลเลอร์ไม่กลืนเข้ากับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ หรือแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไปในจุดเดียว ส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของเนื้อฟิลเลอร์ อีกสาเหตุหนึ่งคือ การใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือมีคุณภาพต่ำ ซึ่งทำให้เนื้อฟิลเลอร์ไม่สามารถกระจายตัวได้ดี และมีโอกาสจับตัวเป็นก้อนได้ง่ายขึ้น
ในบางกรณี ฟิลเลอร์อาจ เคลื่อนตัวผิดตำแหน่งหลังฉีด โดยเฉพาะหากมีการนวดหน้าแรงๆ หรือสัมผัสบริเวณร่องแก้มมากเกินไปในช่วงหลังฉีด รวมถึงบางคนอาจมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อฟิลเลอร์ เช่น การอักเสบใต้ผิว ส่งผลให้เกิดพังผืดหรือก้อนแข็งในระยะยาวได้ครับ
การลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดก้อนหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน และดูแลตัวเองหลังฉีดตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดครับ
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน อันตรายไหม?
โดยทั่วไปแล้ว หากฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วพบว่ามีก้อนเกิดขึ้น อาจไม่ถือว่าอันตรายในทันทีครับ เพราะบางกรณีอาจเป็นเพียงอาการบวมชั่วคราวจากตัวยาที่ยังไม่กระจายตัวดี ซึ่งสามารถหายได้เองภายในไม่กี่วัน หรือใช้วิธีประคบเย็นและติดตามอาการกับแพทย์ก็เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม หากก้อนฟิลเลอร์นั้น ยังคงอยู่เป็นเวลานาน ผิวบริเวณนั้นดูผิดปกติ หรือมีอาการร่วม เช่น ปวด บวม แดง ร้อน หรือแข็งเป็นก้อนชัดเจน นั่นอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อน เช่น การอักเสบ การติดเชื้อ หรือการฉีดผิดชั้นผิว ซึ่งควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อประเมินและรักษาอย่างถูกต้อง เพราะหากปล่อยไว้นาน อาจส่งผลต่อเนื้อเยื่อหรือทำให้เกิดพังผืดถาวรได้
ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนเหมาะสำหรับฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม?
การเลือกฟิลเลอร์สำหรับร่องแก้ม ควรเลือกยี่ห้อที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน อย. และมีคุณสมบัติที่เหมาะกับการเติมร่องลึกครับ เพราะบริเวณร่องแก้มเป็นจุดที่เคลื่อนไหวบ่อย เช่น เวลาพูดหรือยิ้ม จึงต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นดี อยู่ตัว ไม่เป็นก้อน และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
ยี่ห้อที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ได้แก่:
- Juvederm Voluma / Juvederm Ultra Plus XC
เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น แต่ยังคงความยืดหยุ่นดี เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องลึกอย่างร่องแก้ม อยู่ได้นานประมาณ 12–18 เดือน และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อนง่าย - Restylane Lyft / Restylane Defyne
เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง รองรับการเคลื่อนไหวของใบหน้าได้ดี ช่วยเติมเต็มร่องแก้มลึกให้ดูตื้นขึ้นโดยไม่แข็งหรือดูโป๊ะ อยู่ได้นาน 12 เดือนโดยประมาณ - Belotero Volume / Intense
ฟิลเลอร์ที่ให้เนื้อสัมผัสนุ่มและกลืนกับผิวได้ดี ช่วยให้ร่องแก้มดูฟูขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะในเคสที่ไม่ต้องการให้ดูหนาหรือเปลี่ยนโครงหน้า
วิธีแก้ไขฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน
หากฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเกิดก้อนขึ้นใต้ผิว ไม่ต้องตกใจครับ เพราะสามารถรักษาและแก้ไขได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุ ความรุนแรง และชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ โดยควรได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด
- นวดสลายก้อน (ในกรณีที่เพิ่งฉีดไม่นาน)
หากฟิลเลอร์เป็นก้อนเพราะยังไม่กระจายตัว แพทย์อาจใช้วิธีนวดเบาๆ เพื่อช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์กระจายเรียบไปกับผิว แต่ต้องทำอย่างถูกเทคนิค เพราะหากนวดผิดวิธี อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งหรือรบกวนชั้นผิวอื่นได้ - ฉีดสลายฟิลเลอร์
หากฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นประเภทไฮยาลูโรนิกแอซิด และก้อนที่เกิดขึ้นไม่สามารถหายไปได้เอง แพทย์จะใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส ฉีดเข้าไปตรงจุดที่เป็นก้อน เพื่อสลายฟิลเลอร์ให้ยุบลง วิธีนี้ได้ผลเร็ว เห็นผลภายใน 1–3 วัน และปลอดภัยถ้าทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ - ขูดหรือผ่าตัดออก (กรณีใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือถาวร)
ถ้าใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายได้ เช่น ซิลิโคนเหลว หรือฟิลเลอร์ปลอม การฉีดเอนไซม์จะไม่ได้ผล อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดหรือขูดออก ซึ่งควรทำโดยแพทย์เฉพาะทางเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงในระยะยาว - ติดตามผลอย่างใกล้ชิด
หลังการแก้ไข แพทย์อาจนัดติดตามผลเพื่อตรวจดูว่าอาการดีขึ้นหรือไม่ และแนะนำวิธีดูแลผิวหลังจากนั้นให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเดิมซ้ำอีก
การแก้ไขฟิลเลอร์เป็นก้อนสามารถทำให้กลับมาสวยและดูเป็นธรรมชาติได้ครับ แต่อย่ารอให้ปัญหารุนแรงเกินไปก่อนปรึกษาแพทย์ เพราะการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ มักให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าและลดความเสี่ยงในระยะยาวครับ
เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอย่างไรให้ปลอดภัย
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นหัตถการที่ต้องใช้ทั้งความแม่นยำ ประสบการณ์ และความเข้าใจในโครงสร้างใบหน้า เพราะหากฉีดผิดตำแหน่งหรือใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น เป็นก้อน ใบหน้าผิดรูป หรือเสี่ยงต่อการอุดตันของหลอดเลือดได้ ดังนั้น การเลือกคลินิกที่ปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดครับ
- เลือกคลินิกที่มีแพทย์จริง และมีประสบการณ์เฉพาะทางด้านการฉีดฟิลเลอร์
แพทย์ควรเป็นผู้ที่ได้รับใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง และควรมีผลงานหรือเคสจริงให้ดูอย่างชัดเจน เพราะการฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่แค่เติมให้เต็ม แต่ต้องมีความรู้เรื่องชั้นผิว โครงหน้า และตำแหน่งเส้นเลือด - ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย.
ฟิลเลอร์ที่ดีควรเป็นไฮยาลูโรนิกแอซิด ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย มีฉลากภาษาไทย กล่องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มีเลขล็อต วันหมดอายุชัดเจน และแพทย์ควรแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า เพื่อความมั่นใจว่าไม่ใช้ของปลอม - มีการให้คำปรึกษาก่อนทำโดยละเอียด
คลินิกที่ดีควรมีการซักประวัติคนไข้ ตรวจสภาพผิวหน้า และอธิบายขั้นตอนอย่างชัดเจนก่อนทำ รวมถึงแจ้งความเสี่ยง ผลข้างเคียง และแนวทางการดูแลหลังฉีดอย่างครบถ้วน - สถานที่สะอาด ได้มาตรฐาน และมีระบบติดตามผลหลังทำ
บรรยากาศคลินิกควรสะอาด ปลอดเชื้อ อุปกรณ์เป็นของใหม่ทุกเคส และมีทีมแพทย์ติดตามอาการหลังทำ รวมถึงสามารถติดต่อสอบถามได้หากมีอาการผิดปกติ
หากคุณกำลังพิจารณาจะฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม การเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ และทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาสวย ปลอดภัย และดูเป็นธรรมชาติครับ
สรุป: ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร อันตรายไหม? (อัปเดต 2025)
การเกิดก้อนหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ฉีดผิดชั้นผิว ฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณมากเกินไป ใช้ฟิลเลอร์คุณภาพต่ำ หรือเกิดจากการนวดแรงๆ หลังฉีด ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้กระจายตัวดีอาจรวมตัวกันเป็นก้อนใต้ผิว ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่เรียบ ไม่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะเวลายิ้มหรือแสดงสีหน้า
แม้ในหลายกรณีอาการเหล่านี้จะไม่อันตราย แต่หากก้อนแข็งอยู่เป็นเวลานาน เจ็บ บวม แดง หรือมีอาการอักเสบ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อหรือฟิลเลอร์เคลื่อนผิดตำแหน่ง วิธีแก้ไขที่ปลอดภัยคือการฉีดสลายฟิลเลอร์โดยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
สนใจปลูกผมถาวร: 42G Clinic ปลูกผม