ผมร่วงจากกรรมพันธุ์เป็นปัญหาที่หลายคนเจอ โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้นหรือมีประวัติในครอบครัว บางคนลองใช้แชมพูหรือวิตามินแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น จึงเริ่มสงสัยว่าอาการแบบนี้รักษาได้จริงไหม หรือแค่ต้องปล่อยให้ผมบางไปตามยีน ในบทความนี้หมอจะมาอธิบายให้เข้าใจว่าผมร่วงจากกรรมพันธุ์เกิดจากอะไร และมีวิธีไหนบ้างที่ช่วยฟื้นฟูผมให้กลับมาดูหนาขึ้นได้จริงครับ
ผมร่วงจากกรรมพันธุ์ คืออะไร?
ผมร่วงจากกรรมพันธุ์ หรือ Androgenetic Alopecia คือภาวะผมบางและศีรษะล้านที่เกิดจากพันธุกรรม ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของผมร่วงในทั้งผู้ชายและผู้หญิงครับ โดยมีฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้รูขุมขนค่อยๆ เล็กลง เส้นผมที่งอกใหม่จะบางลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายหยุดงอกอย่างถาวร
บทความน่าสนใจ หัวล้านจากกรรมพันธุ์ แก้ไขได้ไหม? วิธีปลูกผมและการรักษาที่ได้ผลจริง
สาเหตุของการเกิดผมร่วงจากกรรมพันธุ์
ภาวะผมร่วงจากกรรมพันธุ์มีสาเหตุหลักมาจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมร่วมกับการทำงานของฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) โดยเฉพาะฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อรูขุมขนครับ
เมื่อ DHT จับกับตัวรับที่รูขุมขนในบริเวณที่ไวต่อฮอร์โมน เช่น ด้านหน้าและกลางศีรษะ มันจะทำให้รูขุมขนค่อยๆ หดตัว เส้นผมที่งอกออกมาจะบางลงเรื่อยๆ และมีอายุสั้นลง จนกลายเป็นขนอ่อน (vellus hair) และหยุดงอกในที่สุด
พันธุกรรมจะเป็นตัวกำหนดว่าใครมีแนวโน้มจะไวต่อ DHT มากน้อยแค่ไหน บางคนเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุยังน้อย ในขณะที่บางคนอาจเพิ่งเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเมื่ออายุมากขึ้น
อาการผมร่วงจากกรรมพันธุ์
ผมร่วงจากกรรมพันธุ์เป็นปัญหาที่หลายคนเจอโดยไม่รู้ตัว และมักเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงผมร่วงธรรมดาตามวัย แต่จริงๆ แล้วลักษณะอาการของผมร่วงแบบนี้จะมีรูปแบบเฉพาะ ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง มาดูกันครับว่าอาการแตกต่างกันอย่างไร และควรเริ่มสังเกตที่จุดไหนบ้างเพื่อวางแผนการดูแลให้ตรงจุดที่สุด
อาการผมร่วงจากกรรมพันธุ์ในผู้ชาย
- มักเริ่มจากผมบางบริเวณไรผมด้านหน้า (หน้าผาก) แล้วค่อยๆ ถอยร่นเป็นรูปตัว M
เพราะบริเวณนี้ไวต่อฮอร์โมน DHT มากที่สุด ทำให้รูขุมขนค่อยๆ หดตัวและหยุดทำงาน - บางคนเริ่มจากกลางศีรษะ (กระหม่อม) แล้วค่อยๆ ขยายกว้างขึ้น
เพราะโซนกระหม่อมก็เป็นอีกจุดที่ไวต่อฮอร์โมน DHT ทำให้ผมบางลงจนกลายเป็นจุดล้านตรงกลาง - ผมที่ขึ้นใหม่จะเส้นเล็กลง บางลง และมีอายุสั้น
เนื่องจาก DHT ทำให้วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผม (Anagen Phase) สั้นลง เส้นผมจึงไม่สามารถงอกเต็มที่เหมือนเดิม - หากไม่รักษา อาจลุกลามจนศีรษะล้านเกือบหมด ยกเว้นด้านข้างและท้ายทอยที่มักยังคงผมอยู่
เพราะบริเวณด้านข้างและท้ายทอยมีความไวต่อ DHT น้อยกว่า จึงยังคงรูขุมขนแข็งแรงอยู่
อาการผมร่วงจากกรรมพันธุ์ในผู้หญิง
- ลักษณะเด่นคือผมบางกระจายทั่วหนังศีรษะ โดยเฉพาะบริเวณกลางศีรษะและแนวแสกผม
เพราะผู้หญิงมีการตอบสนองต่อฮอร์โมน DHT แตกต่างจากผู้ชาย ทำให้เกิดผมบางทั่ว ๆ แทนที่จะเป็นจุดเฉพาะ
- แสกผมจะเริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ แต่แนวไรผมด้านหน้ายังอยู่
เนื่องจากรูขุมขนที่บริเวณกลางศีรษะค่อยๆ เสื่อมลงก่อน ส่วนแนวไรผมด้านหน้าได้รับผลกระทบน้อยกว่า
- ผมร่วงเยอะกว่าปกติเวลาหวีหรือสระผม
เพราะรูขุมขนเริ่มผลิตเส้นผมที่บางลงและอ่อนแอลง ทำให้หลุดร่วงง่ายกว่าเดิมแม้แค่สัมผัสเบาๆ
- ไม่ถึงขั้นศีรษะล้านเหมือนในผู้ชาย แต่ส่งผลต่อความมั่นใจอย่างมาก
แม้จะไม่รุนแรงเท่าผู้ชาย แต่การมีผมบางกระจายชัดเจนก็อาจทำให้รู้สึกไม่มั่นใจเมื่อต้องพบปะผู้คน หรือจัดทรงผม
📌 สังเกตไว้: ถ้าผมบางผิดปกติและเริ่มมีรูปแบบเฉพาะเจาะจงแบบนี้ ควรเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ ครับ เพราะยิ่งเริ่มดูแลเร็ว โอกาสฟื้นฟูผมก็จะยิ่งสูงขึ้นครับ
สัญญาณผมร่วงกรรมพันธุ์ที่ควรพบแพทย์
ผมร่วงจากกรรมพันธุ์ไม่ใช่แค่เรื่องอายุ หรือการร่วงตามฤดูกาล แต่มีรูปแบบที่ชัดเจนและควรได้รับการดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามจนสายเกินแก้ หากคุณเริ่มมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครับ:
แสกผมเริ่มกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะในผู้หญิง หากเส้นแสกเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ผมบางลงทั่วๆ อย่างไม่มีสาเหตุ อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของภาวะนี้ไรผมด้านหน้าถอยร่นเป็นรูปตัว M
สำหรับผู้ชาย หากสังเกตว่าแนวผมด้านหน้าร่นถอยขึ้นไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะบริเวณขมับ นั่นคือสัญญาณคลาสสิกของผมร่วงจากกรรมพันธุ์ผมร่วงมากผิดปกติทุกวัน
เช่น เจอผมร่วงในห้องน้ำ หมอน หรือเวลาแปรงผมในปริมาณที่มากกว่าปกติ (มากกว่า 100 เส้นต่อวัน)เห็นหนังศีรษะชัดขึ้นเมื่อส่องกระจกหรือถ่ายรูป
เมื่อผมบางจนเห็นหนังศีรษะชัดเจนในบางจุด หรือเวลาเปิดแฟลชแล้วเห็นศีรษะสะท้อน อาจเป็นสัญญาณว่ารูขุมขนเริ่มเสื่อมสภาพมีประวัติคนในครอบครัวศีรษะล้านหรือผมบาง
เพราะภาวะนี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรม หากพ่อ แม่ หรือญาติใกล้ชิดมีลักษณะนี้ คุณก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกันผมใหม่ที่ขึ้นมาเส้นเล็กลงและบางลงเรื่อยๆ
บ่งบอกว่ารูขุมขนเริ่มหดตัว เส้นผมไม่แข็งแรงเหมือนเดิม และกำลังเข้าสู่ระยะท้ายของวงจรผม
ผู้ที่มีโอกาสเป็นผมร่วงจากกรรมพันธุ์
ผมร่วงจากกรรมพันธุ์ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะสามารถเกิดขึ้นได้กับคนหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อไปนี้:
มีประวัติคนในครอบครัวผมบางหรือศีรษะล้าน
หากพ่อ แม่ หรือญาติใกล้ชิดเคยมีปัญหาผมบางจากกรรมพันธุ์ คุณก็มีแนวโน้มสูงที่จะเป็นเช่นกัน เพราะภาวะนี้สามารถถ่ายทอดผ่านยีนได้ทั้งฝ่ายพ่อและแม่ผู้ชายอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
ผู้ชายมีโอกาสเกิดภาวะนี้มากกว่าผู้หญิง และมักเริ่มแสดงอาการตั้งแต่อายุยังน้อย เช่น ผมร่วงที่ไรผม หรือกลางศีรษะผู้หญิงวัย 30 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะช่วงฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
เช่น หลังคลอดบุตร เข้าสู่วัยทอง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน อาจทำให้กรรมพันธุ์ที่ซ่อนอยู่แสดงออกได้ชัดเจนขึ้นผู้ที่มีความเครียดสะสม พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีพฤติกรรมทำร้ายผม
แม้จะมีกรรมพันธุ์อยู่แล้ว แต่ปัจจัยภายนอกเหล่านี้จะกระตุ้นให้ผมร่วงเร็วและชัดเจนยิ่งขึ้น
วิธีรักษาผมบางกรรมพันธุ์
แม้ผมบางจากกรรมพันธุ์จะไม่สามารถหายขาดได้เอง แต่มีหลายวิธีที่ช่วยชะลอการร่วง กระตุ้นให้ผมกลับมาดูหนาขึ้น และเสริมความมั่นใจได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยสามารถเลือกวิธีที่เหมาะกับแต่ละคนได้ตามนี้ครับ:
รักษาด้วยยา: ยาเช่น Finasteride และ Minoxidil ช่วยยับยั้งฮอร์โมน DHT ที่ทำให้รูขุมขนฝ่อและกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีอาการผมบางและต้องใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาผลลัพธ์ การใช้ยาเป็นวิธีที่ไม่รุกรานและมีงานวิจัยรองรับว่าช่วยชะลอการบางของเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพในผู้ป่วยส่วนใหญ่
เลเซอร์ LLLT: เทคโนโลยีเลเซอร์กำลังต่ำช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในหนังศีรษะและเพิ่มการทำงานของเซลล์รากผม ทำให้เส้นผมที่มีอยู่แข็งแรงขึ้นและงอกใหม่เร็วขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด การรักษานี้สามารถทำที่บ้านด้วยอุปกรณ์ส่วนตัวหรือที่คลินิกโดยไม่เจ็บปวดและไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง
ปลูกผม FUE: เทคนิคการปลูกผมแบบ Follicular Unit Extraction ที่แพทย์จะเก็บรากผมทีละหน่วยจากบริเวณที่มีผมหนาแล้วนำไปปลูกในพื้นที่ผมบาง ทำให้แผลเล็กและฟื้นตัวเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผมบางเฉพาะจุด ข้อดีของวิธีนี้คือไม่เหลือแผลเป็นยาวและผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วกว่าวิธี FUT
ปลูกผม FUT: วิธี Follicular Unit Transplantation เป็นการตัดแผ่นหนังศีรษะที่มีเส้นผมออกมาทั้งแผ่นแล้วแยกเป็นหน่วยย่อยก่อนปลูกถ่าย เหมาะกับผู้ที่ต้องการปลูกผมจำนวนมากในครั้งเดียว แต่จะเหลือแผลเป็นเส้นยาวบริเวณต้นคอ วิธีนี้มีข้อได้เปรียบในแง่ต้นทุนที่ถูกกว่าและสามารถเก็บรากผมได้จำนวนมากในการผ่าตัดครั้งเดียว
ปลูกผม DHI: เทคนิค Direct Hair Implantation ใช้อุปกรณ์พิเศษในการเก็บและปลูกรากผมโดยตรงในขั้นตอนเดียว ทำให้รากผมอยู่นอกร่างกายเวลาสั้นที่สุดและมีอัตราการรอดสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความแม่นยำสูงและฟื้นตัวเร็ว เทคนิคนี้ยังช่วยให้แพทย์สามารถควบคุมทิศทางและความลึกของการปลูกผมได้ดีกว่า ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
ฉีด PRP: การฉีด Platelet-Rich Plasma นำเลือดของผู้ป่วยมาปั่นแยกเอาเกล็ดเลือดที่มีปัจจัยการเจริญเติบโตสูงแล้วฉีดกลับเข้าหนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเส้นผม เสริมการรักษาด้วยวิธีอื่นหรือใช้เดี่ยวในผู้ที่มีอาการไม่รุนแรง วิธีนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเนื่องจากใช้สารจากร่างกายผู้ป่วยเอง จึงมีความเสี่ยงในการแพ้หรือการปฏิเสธต่ำมาก
บทความน่าสนใจ ผลข้างเคียงของการปลูกผมและวิธีดูแลหลังการปลูกผม
การป้องกันผมร่วงจากกรรมพันธุ์
แม้ว่า ผมร่วงจากกรรมพันธุ์ จะไม่สามารถป้องกันได้ 100% เพราะเกิดจากยีนที่ถ่ายทอดจากครอบครัว แต่เราสามารถ “ชะลอ” และ “ควบคุม” ให้ผมร่วงช้าลง หรือไม่ลุกลามเร็วจนเสียความมั่นใจได้ครับ
1. หมั่นสังเกตสัญญาณเริ่มต้นตั้งแต่เนิ่น ๆ
เช่น ผมบางลงเฉพาะจุด แสกเริ่มกว้าง หรือไรผมถอยร่น หากเริ่มเห็นความผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนดูแลตั้งแต่ระยะแรก
2. ดูแลหนังศีรษะให้สะอาดและแข็งแรงอยู่เสมอ
เพราะหนังศีรษะที่มีความมัน อักเสบ หรือรังแคเรื้อรัง จะเร่งให้รูขุมขนเสื่อมเร็วขึ้น และกระตุ้นให้ผมร่วงมากกว่าเดิม
3. ลดความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ
ความเครียดเร่งให้ฮอร์โมนไม่สมดุล และมีส่วนกระตุ้นให้ผมร่วงในคนที่มีพันธุกรรมอยู่แล้ว
4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม
โดยเฉพาะโปรตีน ธาตุเหล็ก ซิงก์ ไบโอติน และวิตามินบีต่างๆ ซึ่งช่วยให้รากผมแข็งแรงและชะลอผมร่วงได้ดี
5. หลีกเลี่ยงการกระทำที่ทำร้ายผมซ้ำๆ
เช่น การยืด ดัด ย้อมบ่อยๆ หรือใช้ความร้อนกับผมทุกวัน เพราะทำให้ผมเปราะบาง และเร่งให้รูขุมขนเสื่อมเร็วขึ้น
6. ปรึกษาแพทย์และใช้ยารักษาในรายที่เริ่มมีอาการชัดเจน
เช่น Minoxidil หรือ Finasteride เพื่อชะลอผมร่วงก่อนที่จะลุกลามจนยากจะฟื้นฟู
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับผมร่วงจากกรรมพันธุ์
1. ผมร่วงจากกรรมพันธุ์รักษาให้หายขาดได้ไหม?
รักษาให้ “หายขาด” ไม่ได้ครับ เพราะเกิดจากยีนที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่สามารถชะลอและควบคุมอาการได้ด้วยการใช้ยา การบำรุง หรือการปลูกผม เพื่อให้เส้นผมอยู่ได้นานขึ้นและดูหนาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
2. การปลูกผมช่วยแก้ปัญหาผมร่วงจากกรรมพันธุ์ได้ไหม?
ช่วยได้ครับ เพราะการปลูกผมใช้เส้นผมจากบริเวณที่ไม่ไวต่อฮอร์โมน DHT (มักเป็นด้านข้างหรือท้ายทอย) ซึ่งไม่หลุดร่วงตามกรรมพันธุ์ ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและเส้นผมที่ปลูกสามารถขึ้นใหม่อย่างถาวร
3. หัวล้านกรรมพันธุ์ เริ่มตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
โดยทั่วไปอาจเริ่มเห็นอาการได้ตั้งแต่อายุ 20–30 ปี โดยเฉพาะในผู้ชาย แต่ในบางรายอาจเริ่มช้ากว่านั้น และสำหรับผู้หญิงมักจะเริ่มชัดเจนช่วงอายุ 30–40 ปี ขึ้นไป หรือช่วงที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่น หลังคลอดหรือวัยทองครับ
4. หากคนในครอบครัวศีรษะล้าน เราจะเป็นด้วยไหม?
มีโอกาสสูงครับ เพราะภาวะนี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากทั้งฝ่ายพ่อและแม่ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนในครอบครัวจะเป็นเท่ากัน ขึ้นอยู่กับระดับฮอร์โมน พฤติกรรมการใช้ชีวิต และการดูแลตัวเองด้วยครับ
รักษาโรคผมร่วงจากกรรมพันธุ์ ที่ไหนดี?
- เลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมโดยเฉพาะ
การเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเส้นผมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแพทย์จะสามารถวิเคราะห์สาเหตุของผมร่วงได้อย่างถูกต้อง และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดกับแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยยา การใช้เทคนิคเลเซอร์ หรือการปลูกผม หากแพทย์มีความเชี่ยวชาญจริงๆ จะสามารถให้คำแนะนำที่ชัดเจนและตรงตามความต้องการของผู้ป่วยได้มากขึ้นครับ - มีเทคโนโลยีและการรักษาหลากหลาย
คลินิกที่มีเทคโนโลยีหลากหลายจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาผมร่วงที่แตกต่างกัน เช่น การใช้ PRP (Platelet-Rich Plasma) เพื่อกระตุ้นการงอกของเส้นผม หรือการรักษาด้วยเลเซอร์ LLLT ที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด การปลูกผมด้วยเทคนิค FUE หรือ DHI ก็เป็นทางเลือกที่ได้ผลในกรณีที่ต้องการฟื้นฟูผมอย่างถาวร การมีทางเลือกหลากหลายจะช่วยให้แพทย์เลือกแนวทางการรักษาที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดครับ - มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง และผลลัพธ์ที่ตรวจสอบได้
การดูรีวิวจากผู้ที่เคยรับบริการช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นในความสามารถของคลินิกหรือแพทย์ที่เลือก บางครั้งรีวิวเหล่านี้ไม่เพียงแต่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลลัพธ์หลังการรักษา แต่ยังช่วยให้คุณเห็นภาพรวมเกี่ยวกับการบริการของคลินิก เช่น ความสะดวกสบาย การให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ และการดูแลหลังการรักษา การดูภาพก่อนและหลังการรักษาก็เป็นตัวช่วยที่ดีในการประเมินผลครับ - บริการหลังการรักษาที่ดูแลต่อเนื่อง
การรักษาผมร่วงไม่ใช่แค่ขั้นตอนแรกเท่านั้น แต่หลังจากนั้นยังต้องมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่องจากแพทย์ การติดตามนี้จะช่วยให้แพทย์สามารถปรับวิธีการรักษาให้เหมาะสมกับสภาพของผมและหนังศีรษะได้ รวมถึงการตรวจสอบผลลัพธ์ เช่น ฟื้นฟูการงอกของเส้นผมหลังการปลูก หรือการใช้ยาหรือวิธีอื่น ๆ การดูแลต่อเนื่องนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาให้ยั่งยืนยิ่งขึ้นครับ
บทความน่าสนใจ Growth Factor คืออะไร เทคนิคฉีดไขมันที่ทันสมัยที่สุด
สรุปเรื่องผมร่วงจากกรรมพันธุ์แบบเข้าใจง่ายครับ
ผมร่วงเป็นเรื่องที่หลายคนเจอกันเยอะมากครับ โดยเฉพาะถ้ามีคนในครอบครัวเคยศีรษะล้านหรือผมบาง ก็มีโอกาสที่เราจะเป็นได้เหมือนกัน สาเหตุหลักเกิดจากฮอร์โมน DHT ที่ไปรบกวนรูขุมขน ทำให้เส้นผมค่อย ๆ บางลง และหยุดขึ้นในที่สุดครับ อาการในผู้ชายมักเริ่มจากไรผมถอยเป็นรูปตัว M หรือบางตรงกลางศีรษะ ส่วนผู้หญิงจะเห็นผมบางทั่วๆ โดยเฉพาะตรงกลางศีรษะและแนวแสกครับ
แม้ว่าจะรักษาให้หายขาดไม่ได้ แต่ก็มีหลายวิธีที่ช่วยชะลอและฟื้นฟูได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยา Minoxidil, Finasteride, ฉีด PRP, เลเซอร์ LLLT หรือปลูกผมแบบ FUE, FUT, DHI ก็สามารถช่วยให้ผมดูหนาขึ้นและมั่นใจมากขึ้นได้ครับ ยิ่งเริ่มรักษาเร็ว โอกาสที่ผมจะฟื้นฟูก็ยิ่งดี เพราะฉะนั้นถ้าสังเกตว่าเริ่มผมบางหรือร่วงผิดปกติ อย่ารอให้ลุกลาม รีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางจะดีที่สุดครับ
สนใจปลูกผมถาวร: 42G Clinic ปลูกผม