การเติมไขมัน หรือ การฉีดไขมัน (Fat Grafting) โดย คุณหมอต้น ปิยพล พัฒนครู
การเติมไขมัน
คืออะไร?
การฉีดเติมเต็มใบหน้าด้วยไขมันของตัวเอง เป็นการย้ายตำแหน่งไขมันจากบริเวณที่เราไม่ ต้องการเช่นต้นขา หน้าท้อง แขน หลัง ฯลฯ เพื่อมาเติมเต็มส่วนที่บกพร้อง เช่น ร่องแก้ม ได้ตา รอบดวจตา หน้าผากแบน ขมับตอบ โหนกแก้มสูง ฯลฯ ซึ่งเป็นการฉีดไขมันเป็นการเติมเต็มใบหน้าที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เพราะเป็นไขมันของตนเองที่มาจากธรรมชาติ ไม่ใช่สารสังเคราะห์ ลดโอกาสแพ้และลดโอการที่จะเกิดการสะสมของเหลวในบริเวณที่เติมเต็ม
ใครบ้างที่เติมไขมันได้
ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า สามารถทำได้ตั้งแต่อาย 20ปี - 75ปี เมื่ออายมากขึ้นความแข็งแรงระหว่างพังพืดกับชั้นชั้นบันที่ยึดใบหน้าจะลดลงในบาจบริเวณทำให้เกิดริ้วรอย เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำตา หน้าผากย่นหรือบางคนแก้มตอบจากการที่ไขมันบริเวณแก้มลดลดลดทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งจากประสบการณ์การกำเคสอีดไขมันขอของคุณหมอปิยพลพบว่าผู้ชายนั้นไขมันจะติดดีกว่าผู้หญิงด้วยซ้ำและทำได้จนถึงอาย 60 ปีขึ้นไป เพราะเคยมีคนโข้อาย 60ปีมาเติบไขมันและพบว่าไขมันติดดีไม่แพ้สาวๆเหมือนกัน
เทคนิคที่ใช้
Growth Factors เป็นเทคนิคที่คุณหมอปียพลนำมาใช้เป็นคนแรกๆ ในประเทศไทย เทคนิคนิคนี้ เป็นเทคนิคการฉีดไขมันที่ทันสมัยที่สุด ต่างจากแบบเดิมคือเมื่อดูดไขมันแล้วจะนำมาปั่นและคัดแยกไขมันและนำมาผสมกับ Growth Factors ได้เป็นไขมันที่มีความคงตัวและติดดีกว่าเทคนิคเดิมถึง 3 เท่าเทียบจากเทคนิคแรก เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วเมื่อฉีดไขมันแล้วไขมันจะติดประมาณ 30% เท่านั้นเพราะไขมันบอบบางและสูญสลายง่ายเมื่อมีการย้ายตำแหน่ง แต่ด้วยเทคนิคนิค Growth Factors ไขมันติดได้ถึง 80-90% โดยที่ใช้ปริมาณน้อยกว่า
ฉีดไขมันหน้าผากเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากตัด ทำให้ใบหน้าดูแข็ง สามารถฉีดไขมันหน้าผากเพื่อปรับรูปหน้าให้หน้าผากโหนกนูนมากขึ้น เพิ่มมิติให้ใบหน้าทำให้ curve ของใบหน้าชัดขึ้น ปรับโหงวเฮ้งให้ดีขึ้นรับทรัพทย์ นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึก ริ้วรอยถาวรบริเวณหน้าผากได้อีกด้วย
ฉีดไขมันขมับ: เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาขมับบุ๋ม ขมับยุบ ขมับตอบ ทำให้โหนกแก้มดูเด่น รูปหน้าไม่หวาน การฉีดไขมันขมับจะช่วยปรับรูปหน้าให้ smooth มากขึ้นเมื่อขมับเต็มจะทำให้ใบหน้าหวานขึ้นลดความเด่นของโหนกแก้มได้
ฉีดไขมันใต้ตา: เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาร่องใต้ตาลึกใต้ตาคล้ำ มีริ้วรอยเล็กๆใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูโทรมและมีอายุแต่งหน้ายาก แป้งตกร่องการฉีดไขมันใต้ตา การเติมไขมันจะช่วยทำให้ร่องใต้ตาตื้นขึ้น เต็มขึ้นและช่วยปรับสีผิวใต้ตาที่คล้ำให้ดูดีขึ้น หลังฉีดไขมันใต้ตาใบหน้าจะดูสดใส อ่อนเยาว์
ฉีดไขมันร่องแก้ม: เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาร่องลึกตามแนวปีกจมูก ถึงมุมปาก มักจะพบในคนที่มีอายุมาก แสดงสีหน้าบ่อยทำให้เกิดเป็นร่องแก้มแบบถาวร(บางคนเรียกว่าร่องน้ำหมาก) ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ แก้ไขได้ด้วยการฉีดไขมันเติมเต็มร่องแก้มให้ดูเด็กอย่างเป็นธรรมชาติ
ฉีดไขมันแก้มตอบ: ปัญหาแก้มตอบ เป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและดูโทรม การฉีดไขมันตรงบริเวณที่มีปัญหาแก้มตอบจะช่วยปรับรูปหน้าให้ รmooth ขึ้น อย่างเป็นธรรมชาติใบหน้าดูเด็กและอิ่มฟูมากขึ้น
ฉีดไขมันเปลือกตาะ: เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเบ้าตาที่ลึกจนทำให้ดูโทรมหรือแก่ก็สามารถเติมเต็มให้ดูเปลือกตาสดใสหน้าดูเด็กลงได้
ขั้นตอนการเติมไขมันหน้า
ขั้นตอนที่ 1 วิเคราะห์ใบหน้า
คุณหมอเล่าว่า ศัลยแพทย์ต้องมีความรู้เกี่ยวกับมิติของใบหน้ารู้ว่าใบหน้าแต่ละคนมีเหลี่ยมไหนมุมไหนที่เติมไขมันแล้วจะดูสวยงาม แบบพอดีจริงๆ ตัวคุณหมอเองนั้นเคยผ่านคอร์สเรียนการปั้นและการวาดภาพจากเพาะช่างมาแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนเฉพาะทางในสาขาศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้า โรงพยาบาลจุฬาฯ ซึ่งบรรจุวิชานี้ไว้ในหลักสูตรเพื่อให้ศัลยแพทย์เข้าใจความงามในมิติของศิลปะด้วย คุณหมอเล่าว่ากระดูกที่เป็นกรอบหน้าคือมิติที่แข็ง และส่วนที่นิ่มที่มีไขมันคือมิติที่อ่อน คนเราเมื่ออายุมากขึ้นจะมีไขมันน้อยลงทำให้แก้มตอบ ขมับตอบ ซึ่งทำให้ใบหน้าดูแข็ง ก็อาจแก้โดยฉีดไขมันที่แก้มและขมับให้เต็มขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้รับบริการและความเป็นไปได้ตามคำวินิจฉัยของคุณหมอไม่สามารถใช้วิธีเดียวในการแก้ปัญหาให้คนทุกคนได้
ขั้นตอนที่ 2 การดูดไขมัน
ขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที ใช้ไขมันประมาณ 100-200 ซีซี โดยคุณหมอจะคำนวณไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะดูดเท่าไหร่จากอวัยวะส่วนไหน ซึ่งโดยมากจะดูดจากต้นขาก่อนถ้าไม่พอจึงดูดที่หน้าท้อง ส่วนใหญ่จะจบที่หน้าท้อง และคนไข้ประมาณ 85-90% เลือกวิธีฉีดยาชาและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคุณหมอมือเบามาก ทำไม่เจ็บ ระหว่างทำสามารถพูดคุยกับคุณหมอได้ตามปกติ
ขั้นตอนที่ 3 การคัดแยกไขมัน
ใช้เทคนิค Growth Factors ซึ่งคุณหมอปิยพลเป็นผู้บุกเบิกนำเทคนิคนี้มาใช้ในประเทศไทย คุณหมอใช้เทคนิคพิเศษในการคัดแยกไขมัน และใช้อุปกรณ์ที่มีความแม่นยำสูงมาสกัด Growth Factors จากเลือดแล้วนำมาผสมกับไขมัน คุณหมอให้ความสำคัญกับ Growth Factors มากเพราะโดยตัวมันเองเป็นอาหารเลี้ยงไขมันอยู่แล้ว มันจะเป็นปุ๋ยให้กับไขมัน และทำให้เมื่อฉีดไขมันไปแล้ว ไขมันจะติดดีถึง 80-90%
ขั้นตอนที่ 4 การฉีดไขมัน
ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความชำนาญว่าแต่ละตำแหน่งควรฉีดเท่าไหร่ ซึ่งต้องคำนวณเผื่อตอนไขมันยุบด้วย โดยหลักแล้ว ให้ “ฉีดพอดีหรือเกินได้นิดหน่อย” และ “ห้ามฉีดเกินมากๆ” เด็ดขาด เพราะจะทำให้หน้าบวม หน้าเปลี่ยนเป็นคนละคน และการจะเอาไขมันส่วนที่เกินออกนั้นเป็นเรื่องยากมากเพราะไขมันที่ใบหน้าถ้าติดแล้วจะติดดี ไม่เหมือนไขมันบริเวณอื่น ใบหน้าเป็นส่วนที่มีกล้ามเนื้อและพังผืดเยอะ ขูดไขมันออกยากและเกิดการบวมช้ำง่าย แพทย์จึงต้องระมัดระวังในการฉีดมากและต้องอาศัยความเชี่ยวชาญอย่างสูง
Doctor’s Message
(ผู้ก่อตั้ง Pmed Clinic และ 42G Clinic)
การฉีดไขมันหน้าเด็ก ควรทำคู่กับ Botox สารทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตชั่วคราว โดยมากผมจะฉีดครั้งเดียวให้จบเลย แต่ก็มีบางบริเวณที่ไม่เอื้อต่อการฉีดไขมัน เช่น หน้าผาก เปรียบเหมือนเวลาปลูกต้นไม้ที่ดินอื่น 100 ต้น อาจจะขึ้น 80 ต้น แต่ถ้าปลูกตรงหน้าผากจะขึ้นแค่ 60 ต้น เพราะฉะนั้นต้องมาดูกันอีกทีว่าควรจะฉีดซ้ำหรือไม่ และโดยมากการฉีดไขมันบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวเยอะๆ เช่น หน้าผากหรือแก้ม ก็จะมีโอกาสที่จะเกิดร่องไขมันเพราะการขยับเป็นการรบกวนต้นกล้าไขมันที่เราเพิ่งปลูกเข้าไป มันยังเป็นต้นอ่อนถ้าเราไปรบกวนมันก็อาจจะไม่เข้าที่ ผมก็จะแนะนำให้ฉีด Botox ที่เป็นสารทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตชั่วคราวไปด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การเติมไขมันหรือการฉีดไขมันก็เหมือนการปลูกต้นไม้ “ให้เราจินตนาการว่าถ้าเราจะปลูกต้นไม้ต้องอาศัยอะไรบ้าง เช่น ต้นกล้า ดิน ปุ๋ย คนปลูกต้นไม้ เป็นต้น ต้นกล้าก็คือไขมันที่เราฉีดไขมันลงไปในชั้นใต้ผิวหนังGrowthFactorsคือปุ๋ยที่เราที่พัฒนาเทคนิคมาเกือบ10ปีจนได้สูตรปุ๋ยที่ดีที่สุดดินคือร่างกายของผู้มารับบริการ คุณอายุเท่าไร เพศอะไร พักผ่อนเพียงพอไหม สูบบุหรี่หรือเปล่า ดื่มหรือเปล่า มีโรคประจำตัวไหม ฯลฯ ส่วนนี้เราแก้ไขไม่ได้แต่เราจะทำให้ดีที่สุด และสุดท้ายคือคนปลูก ซึ่งต้องมีเทคนิคที่ดี มีประสบการณ์สูง เพราะการฉีดไขมันแต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดซับซ้อนแต่ไม่ยากเพราะคำนวณล่วงหน้าได้หมด ถ้าคุณมีประสบการณ์และเอาใจใส่กับมันมากพอ”
1. ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความพร้อม
แพทย์จะตรวจสอบสุขภาพทั่วไปของคุณ รวมถึงตำแหน่งที่ต้องการดูดไขมัน (เช่น หน้าท้อง ต้นขา) และตำแหน่งที่จะฉีดไขมันบนใบหน้า หากมีโรคประจำตัว หรือทานยาประจำ ควรแจ้งแพทย์อย่างละเอียด
2. หลีกเลี่ยงยาบางชนิด
งดการใช้ยาแอสไพริน ยาลดการอักเสบ (NSAIDs) และวิตามินบางชนิด เช่น วิตามินอี หรืออาหารเสริมที่อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ
3. งดบุหรี่และแอลกอฮอล์
การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อาจลดประสิทธิภาพการติดของไขมันในร่างกาย ควรงดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังการทำ
4. พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับอย่างเพียงพอช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวและพร้อมสำหรับกระบวนการผ่าตัด
5. เตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย
สำหรับวันทำหัตถการ ควรใส่เสื้อผ้าหลวมๆ เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนไหวหลังดูดไขมัน
งดการกดทับบริเวณที่ฉีดไขมัน
หลีกเลี่ยงการกด นวด หรือทับบริเวณที่ฉีดไขมัน เช่น การนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ ใช้หมอนรองคอหรือหมอนรองศีรษะเพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันเคลื่อนตัว
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำช่วยให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปอยู่รอดได้ดีและช่วยฟื้นฟูร่างกาย
งดออกกำลังกายหนัก
ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ใช้แรงมากในช่วง 2 สัปดาห์แรก หากดูดไขมันจากต้นขาหรือต้นแขน ควรใส่ชุดกระชับสัดส่วนตามคำแนะนำของแพทย์
เลี่ยงการสัมผัสความร้อนหรือเย็นจัด
ไม่ควรให้บริเวณที่ฉีดไขมันโดนความร้อนหรือความเย็นจัด เพราะอาจส่งผลต่อการติดของไขมัน
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
เพิ่มการรับประทานโปรตีนและไขมันดี เช่น ปลาแซลมอน ถั่ว อะโวคาโด เพื่อช่วยบำรุงร่างกายและเซลล์ไขมัน หลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัด เพราะอาจทำให้ใบหน้าบวมนานขึ้น
ติดตามอาการและนัดตรวจติดตามกับแพทย์
ควรพบแพทย์ตามกำหนดเพื่อตรวจสอบผลลัพธ์และดูแลหากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมแดงมากผิดปกติ หรือเจ็บปวด
Tips!
การฉีดไขมันเป็นวิธีปรับรูปหน้าและเติมเต็มใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติซึ่งการดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ ช่วยเพิ่มโอกาสให้ไขมันติดทนและผลลัพธ์ออกมาสวยสมบูรณ์แบบ เช่น หลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณที่ฉีด ดื่มน้ำให้เพียงพอ งดออกกำลังกายหนัก และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยง แต่ยังช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีและรูปหน้าดูสวยสมส่วนในระยะยาว
การเติมไขมันหน้าเป็นกระบวนการนำไขมันจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้อง หรือต้นขา มาฉีดเข้าไปที่ใบหน้า เพื่อเพิ่มความอิ่มฟู ปรับรูปหน้า และลดริ้วรอย โดยใช้ไขมันของตัวเองเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
ผู้ที่มีใบหน้าผอมเกินไปหรือดูโทรม
ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้สมดุล อิ่มฟูขึ้น
ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยหรือเติมเต็มบริเวณที่ดูแบนราบ เช่น ขมับ แก้ม ร่องแก้ม
ไขมันที่เติมจะติด 3-5ปี สามารถติได้มากถึง 10ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและเทคนิคของแพทย์
อาการบวมจะเริ่มลดลงภายใน 3-7 วัน และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนประมาณ 1-3 เดือนหลังทำ
ปลอดภัย เพราะใช้ไขมันของตัวเอง จึงลดความเสี่ยงต่ออาการแพ้เมื่อเทียบกับสารเติมเต็มชนิดอื่น เช่น ฟิลเลอร์
สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังทำ แต่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดทับบริเวณที่เติมไขมันในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
ระหว่างทำจะใช้ยาชาเฉพาะที่หรือยานอนหลับ อาการเจ็บจะน้อยมาก หลังทำอาจรู้สึกตึงบริเวณที่ฉีดไขมันและบริเวณที่ดูดไขมัน ซึ่งมักหายได้เองในไม่กี่วัน
อาจมีอาการบวม ฟกช้ำ หรือรู้สึกตึงเล็กน้อยในช่วงแรก ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปเอง หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมแดงหรือเจ็บมาก ควรปรึกษาแพทย์ทันที
ไขมัน: ใช้ไขมันของตัวเอง อยู่ได้ถาวรกว่าและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์: ใช้สารเติมเต็มสังเคราะห์ เหมาะสำหรับการเติมเฉพาะจุดที่ต้องการความแม่นยำสูง
หลีกเลี่ยงการกดหรือนวดบริเวณที่เติมไขมัน
งดการออกกำลังกายหนักในช่วง 1-2 สัปดาห์
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ไขมันติดได้ดี
สอบถามเพิ่มเติมกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ เกี่ยวกับบริการศัลยกรรมความงามหลากหลายรูปแบบ ที่เน้นคุณภาพและการดูแลอย่างใส่ใจในทุกขั้นตอน
สอบถามเพิ่มเติมกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ เกี่ยวกับบริการศัลยกรรมความงามหลากหลายรูปแบบ ที่เน้นคุณภาพและการดูแลอย่างใส่ใจในทุกขั้นตอน